การผลิตหนังสืออาจพูดได้ว่า เป็นการผลิตสองขั้น คือ ผลิตทางด้านความคิดขั้นหนึ่ง อันได้แก่ การสร้างสรรค์เนื้อหา เรื่องราว และความคิดที่อยู่ในตัวหนังสือนั้น และการผลิตทางด้านวัตถุ อันได้แก่ การพิมพ์ ซึ่งเป็นการนำตัวพิมพ์ หรือแม่พิมพ์ มาทาหมึกพิมพ์ พิมพ์ลงบนกระดาษ ประกอบเล่มด้วยปก ผ้าหุ้มปก เป็นรูปเล่มหนังสือ การจัดพิมพ์เป็นการทำหน้าที่เชื่อมโยงประสานให้การผลิตทั้งสองขั้นนั้น ได้รับช่วงกัน เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้อ่าน
การผลิตหนังสือ
ประกอบด้วยหน้าที่ ที่จะต้องดำเนินการอยู่ ๔ ประการ คือ
๑. หน้าที่ในการจัดพิมพ์
ผู้รับผิดชอบคือผู้จัดพิมพ์ (publisher)
๒. หน้าที่การผลิตในด้านความคิด
คือ การจัดให้มีการประพันธ์ หรือรวบรวมเรื่องราวจากการประพันธ์มาจัดพิมพ์ ผู้รับผิดชอบคือ บรรณาธิการ (Editor)
๓. หน้าที่การผลิตในด้านวัตถุ
คือ การพิมพ์ ผู้รับผิดชอบคือ ผู้พิมพ์ (Printer)
๔. หน้าที่ทางการจำหน่ายจ่ายแจก
ผู้รับผิดชอบตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติการพิมพ์เรียกว่า ผู้โฆษณา (distributor) คือ เป็นผู้ที่จำหน่ายจ่ายแจกหนังสือ
หน้าที่ที่กล่าวข้างต้น เป็นงานที่การผลิตหนังสือทุกประเภท จะต้องมีผู้รับผิดชอบ แต่ละหน้าที่อาจเป็นงานที่คนๆ เดียวทำ หรือกลุ่มคนหลายคนทำก็ได้ ในหน้าที่หนึ่งๆ บางอย่างอาจมีคน ๆ เดียวทำในหลายหน้าที่ก็ได้ เช่น ผู้ประพันธ์แต่งหนังสือเอง จัดพิมพ์ และพิมพ์ออกขายเอง ผู้ประพันธ์คนนั้น
ทำหน้าที่เป็นทั้งผู้จัดพิมพ์ บรรณาธิการ ผู้พิมพ์ และผู้โฆษณา
การจัดพิมพ์เป็นหน้าที่ของบุคคลที่เรียกว่า ผู้จัดพิมพ์ หรือถ้ากล่าวถึงหน่วยงานที่ดำเนินการในเรื่องนี้เรียกว่า สำนักพิมพ์ ผู้จัดพิมพ์เป็นผู้ที่รับผิดชอบในการแสวงหาข้อมูล ด้านความต้องการของลูกค้า ซึ่งเป็นผู้อ่าน หรือผู้ซื้อว่า มีความต้องการอ่านหนังสือชนิดใด ประเภทใด หนังสือบางประเภทผู้ซื้อ และผู้อ่านเป็นคนเดียวกัน แต่บางประเภทผู้ซื้อกับผู้อ่านอาจเป็นคนละคนกัน เช่น กรณีที่ผู้ปกครองซื้อหนังสือมาให้บุตรหลานในปกครองอ่าน จะต้องทราบว่า หนังสือที่ผู้ซื้อจะซื้อนั้น เป็นหนังสือลักษณะใด จะซื้อในราคาใด ผู้จัดพิมพ์เป็นผู้ที่จะติดต่อให้ผู้เขียน หรือผู้ประพันธ์สร้างสรรค์งานขึ้น
ผู้จัดพิมพ์เป็นผู้กำหนดจำนวนพิมพ์ วิธีพิมพ์ ระบบวิธีการจำหน่าย เป็นผู้จัดหาทุนในการดำเนินการ ความสำเร็จของผู้จัดพิมพ์อยู่ที่ว่า จะสามารถทำให้หนังสือที่ผลิตขึ้นมานั้น ตรงกับความต้องการของผู้ซื้อ หรือผู้อ่านได้เพียงใด